ญี่ปุ่น เตรียมประกาศ ภาวะฉุกเฉิน หลังคุมโควิดไม่อยู่

ญี่ปุ่น เตรียมประกาศ ภาวะฉุกเฉิน หลังคุมโควิดไม่อยู่

ญี่ปุ่น เตรียมประกาศใช้ ภาวะฉุกเฉิน อีกครั้ง หลังยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงสุดขึ้น วอนชาวญี่ปุ่นเลี่ยงออกนอกเคหสถาน เมื่อวันที่ 23 เมษายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นเตรียมประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินกับกรุงโตเกียว, โอซาก้า, เกียวโต และ เฮียวโก หลังจากทางการญี่ปุ่นเผชิญปัญหาในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดที่ระบาดขึ้นซ้ำในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่กี่เดือนก่อนมหกรรมกีฬาโอลิมปิก

ทางการญี่ปุ่นอธิบายว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งใหม่นี้ 

จะเป็นภาวะฉุกเฉินที่ “สั้นและรุนแรง” ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอธิบายว่า ทางการญี่ปุ่นจะร้องขอให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ปิดให้บริการ และขอให้การแข่งขันกีฬาต้องจัดแบบไม่มีผู้ชม โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ในวันที่ 25 เมษายน ถึง 11 พฤษภาคม

โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจวอนชาวญี่ปุ่นให้อยู่ในเคหสถานและเลี่ยงออกนอกบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านกรุงโตเกียวพบผู้ป่วยใหม่ 861 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม และในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยสะสมราวๆ 550,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตเข้าใกล้หมื่นศพ

นอกจากนี้ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสถานการณ์เตียงผู้ป่วยขาดแคลนในบางพื้นที่ นอกจากนี้การฉีดวัคซีนต้านโควิดในประเทศญี่ปุ่นถือว่าดำเนินไปอย่างล่าช้า

ตำรวจถึงกับงง หลังตรวจพบชายอิตาลี โดดงาน 15 ปี และได้รับเงินเดือนกว่า 20 ล้านบาท แม้เขาจะโดดงานก็ตาม ขณะนี้ถูกสั่งสอบแล้ว

เมื่อวันที่ 21 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวน ชายอิตาลีคนหนึ่งในข้อหา ฉ้อโกง, ขู่กรรโชก และ การใช้สำนักงานในทางที่ผิด หลังจากที่ชายคนดังกล่าวโดดงานที่โรงพยาบาลที่กาตันซาโรมานาน 15 ปี

โดยชายคนดังกล่าวเป็นข้าราชการและได้รับมอบหมายให้ทำงานที่โรงพยาบาลดังกล่าว อย่างไรก็ตามชายคนนี้หยุดมาทำงานตั้งแต่ปี 2548 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเขาได้ทำการขู่ผู้จัดการโรงพยาบาลในช่วงเวลาดังกล่าวว่าห้ามบอกเรื่องของเขา

และเมื่อผู้จัดการคนดังกล่าวเกษียณอายุก็ไม่มีผู้จัดการและฝ่ายจัดการบุคคลที่รู้เรื่องของชายคนดังกล่าว และยังคงจ่ายเงินเดือนให้ตามปกติ ซึ่งตลอดเวลา 15 ปีที่เขาไม่ได้ทำงาน เขาได้เงินเยอะกว่า 20 ล้านบาท นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการสอบปากคำผู้จัดการอีกคน 6 ว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงครั้งนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุที่ชายชาวอิตาเลี่ยนคนนี้ก่อเหตุสุดพิลึกในครั้งนี้

สลด! ผู้ป่วยโควิด ‘อินเดีย’ ดับ 24 ศพ หลัง อ๊อกซิเจนรั่ว

เกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อ ถังอ๊อกซิเจนรั่ว ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 24 ศพ

เมื่อวันที่ 22 เมษายน สำนักข่าว รอยเตอร์ ได้รายงานว่า มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 22 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเมืองนาศิก ประเทศอินเดีย หลังจากที่อ๊อกซิเจน หมดเนื่องจากถังอ๊อกซิเจนรั่ว

โดย กระทรวงสาธารณสุขของรัฐมหาราษฏระ ในอินเดีย ได้ออกมายืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าจากการตรวจสอบพบรอยรั้วในถังอ๊อกซิเจนของผู้ป่วยโควิดกลุ่มดังกล่าว และการที่อ๊อกซิเจนส่งไม่ถึงผู้ป่วยอาจเป็นปัจจัยในเหตุสลดครั้งนี้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ระบุว่า อ๊อกซิเจนหยุดทำงานไปนานกว่า 30 นาที และส่งผลกระทบต่อเครื่องช่วยหายใจของคนไข้อาการวิกฤติมากกว่า 60 ราย

ปัจจุบันอินเดียเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนอ๊อกซิเจนอย่างรุนแรง หลังจากที่ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางโรงพยาบาลยังต้องเพิ่มความเข้มงวดด้านการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากมีประชาชนพยายามบุกเข้ามาขโมยถังอ๊อกซิเจนจากโรงพยาบาล

อินเดียมียอดผู้ป่วยสะสมเกือบ 16 ล้ายราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วมากกว่า 180,000 ศพ ถือเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยสะสมสูงสุดในโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา

เว็ปไซต์ต่างประเทศออกมารายงานว่า ประสิทธิภาพซิโนแวค ต่ำกว่า 50% ซึ่งถือว่าไม่ผ่านค่ามาตรฐานกำหนดขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO

เมื่อวันที่ 15 เมษายน เว็ปไซต์ Economist รายงานว่า วัคซีนซิโนแวค วัคซีนสัญชาติจีนและเป็นหนึ่งในวัคซีนที่ประเทศไทยเลือกใช้ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ได้รายงานเอาไว้

โดยทางเว็ปไซต์ระบุว่า วัคซีนซิโนแวค เมื่อใช้จริงแล้วมีประสิทธิภาพแค่ร้อยละ 49.6 ต่ำกว่าค่ามาตรฐานกำหนด ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และหากใช้กับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการแล้ว ประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดดังกล่าวจะลดลงเหลือเพียง 35.1

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า